ผลหม่อนรสดี ต้องลอง บำรุงสมองและหลอดเลือด
เมื่อนักวิจัยจากกรมหม่อนไหม ได้ศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการปลูกหม่อนพันธ์ุที่ให้ผลดกเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จ จึงส่งเสริมเกษตรกรและประชาชน ที่สนใจได้ปลูกหม่อนเป็นผลไม้ข้างบ้าน และปลูกเพื่อจำหน่ายผลสดหรือแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในเชิงพาณิชย์ โดยตั้งชื่อพันธ์ุนี้ว่า "หม่อนผลสดเชียงใหม่" เนื่องจากมีการนำหม่อนพันธ์นี้มาจากจังหวัดเชียงใหม่ หม่อนพันธ์ุนี้เดิมเราเรียกว่า "หม่อนกินลูก" แต่หลายคนในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่กล้ารับประทานเพราะเกรงว่าหม่อนจะไปกินลูกตัวเอง อาจแท้งลูกได้ จึงเปลี่ยนมาเป็น "หม่อนรับประทานผล" แต่เมื่อทำการขอรับรองพันธ์ุเป็นพันธ์แนะนำ จากกรมวิชาการเกษตร จึงได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า "หม่อนผลสดพันธ์ุเชียงใหม่" ก่อนนำไปสู่การวิจัย หาปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นสารกลุ่ม โพลีฟีนอล กลุ่มแอนโทไซยานิน และกรดโฟลิค
ต้นหม่อน (mulberry : Morus
spp.) เป็นไม้ยืนต้นอยู่ในวงศ์ มอราซีอี่ (Moraceae)
ที่เรามักเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไม้พุ่ม
เพราะเรามักจะเห็นแต่ต้นหม่อนต้นเตี้ยๆ ทรงต้นเป็นแบบไม้พุ่ม
ที่เห็นเป็นเช่นนั้น
เนื่องจากต้นหม่อนที่เกษตรกรปลูกไว้ใช้ใบนำไปเป็นอาหารหนอนไหม
จำเป็นต้องตัดแต่งลำต้นและกิ่งให้ต่ำอยู่เสมอ
เพื่อให้ได้กิ่งและใบที่สมบูรณ์ เก็บเกี่ยวได้ง่าย
ไม่ต้องปีนต้นเก็บใบเหมือนการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในสมัยโบราณ
การปลูกหม่อนในอดีต ก็มุ่งแต่การใช้ใบไปเลี้ยงไหม กระทั่ง นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ นักวิชาการเกษตร ศูนย์วิจัยหม่อนไหมอุดรธานี กรมวิชาการเกษตร (ปัจจุบัน นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมหม่อนไหม) ได้นำพันธุ์หม่อนที่มีผลดกรับประทานได้ จากสวนหลังบ้านคุณโกสิ่ว แซ่โก จังหวัดเชียงใหม่ มาปลูกที่ศูนย์ฯ อุดรธานี เมื่อปี พ.ศ. 2526 กอปรกับเมื่อครั้งผมได้ไปศึกษาต่อที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ได้เห็นชาวออสซี่ปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ผลประจำบ้าน แม้แต่ในมหาวิทยาลัยออสเตรเลียตะวันตก ก็มีการปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ประดับที่คณะเกษตรศาสตร์ ทำให้ผมได้ลิ้มชิมรสความอร่อยของผลหม่อนสดครั้งแรก ในซุปเปอร์มาร์เก็ตของเมืองนี้ก็มีผลหม่อนจำหน่ายเคียงคู่กับบลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ และราสพ์เบอร์รี่ นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ผลหม่อนก็ได้รับความนิยมเหมือนกับเบอร์รี่ชนิดอื่นๆ
เมื่อผมกลับมาทำงานที่ศูนย์ฯ อุดรธานีอีกครั้ง ได้เห็นไก่ในบ้านที่เลี้ยงไว้ พยายามบินขึ้นไปกินผลหม่อนสุก เกิดความสนใจว่าผลหม่อนต้องอร่อยและมีประโยชน์แน่ ผมและคณะจึงนำมาศึกษาการแปรรูปเป็น น้ำผลไม้ ไวน์ และแยม ที่ให้รสชาติดี สีสวย ในปี พ.ศ. 2535 ก็เริ่มเผยแพร่องค์ความรู้สู่ประชาชน ภาคเอกชน นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจำหน่าย กระทั่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ผลหม่อนกับการแปรรูป
การทำน้ำผลหม่อน
ส่วนผสม
ผลหม่อนสีแดง : สีม่วง 1 : 1 หรือ 1 : 2 1.5 กิโลกรัม
น้ำตาล 1.0 กิโลกรัม
น้ำ 4.5 ลิตร
วิธีทำ
1. นำผลหม่อนมาล้างน้ำให้สะอาดใส่หม้อเติมน้ำตั้งไฟพอเดือด
2. เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ นาน 20 – 30 นาที
3. กรองเมล็ดและกากออก
4. รินน้ำกลับใส่หม้อต้มเติมน้ำตาล
5. กรองใส่ขวดที่แห้งและฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนปิดจุกให้แน่น
6. แช่เย็นเก็บไว้ดื่ม หรือใส่น้ำแข็งดื่ม
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/500560
ผลหม่อนกับสารสำคัญในการออกฤทธิ์การปลูกหม่อนในอดีต ก็มุ่งแต่การใช้ใบไปเลี้ยงไหม กระทั่ง นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ นักวิชาการเกษตร ศูนย์วิจัยหม่อนไหมอุดรธานี กรมวิชาการเกษตร (ปัจจุบัน นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมหม่อนไหม) ได้นำพันธุ์หม่อนที่มีผลดกรับประทานได้ จากสวนหลังบ้านคุณโกสิ่ว แซ่โก จังหวัดเชียงใหม่ มาปลูกที่ศูนย์ฯ อุดรธานี เมื่อปี พ.ศ. 2526 กอปรกับเมื่อครั้งผมได้ไปศึกษาต่อที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ได้เห็นชาวออสซี่ปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ผลประจำบ้าน แม้แต่ในมหาวิทยาลัยออสเตรเลียตะวันตก ก็มีการปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ประดับที่คณะเกษตรศาสตร์ ทำให้ผมได้ลิ้มชิมรสความอร่อยของผลหม่อนสดครั้งแรก ในซุปเปอร์มาร์เก็ตของเมืองนี้ก็มีผลหม่อนจำหน่ายเคียงคู่กับบลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ และราสพ์เบอร์รี่ นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ผลหม่อนก็ได้รับความนิยมเหมือนกับเบอร์รี่ชนิดอื่นๆ
เมื่อผมกลับมาทำงานที่ศูนย์ฯ อุดรธานีอีกครั้ง ได้เห็นไก่ในบ้านที่เลี้ยงไว้ พยายามบินขึ้นไปกินผลหม่อนสุก เกิดความสนใจว่าผลหม่อนต้องอร่อยและมีประโยชน์แน่ ผมและคณะจึงนำมาศึกษาการแปรรูปเป็น น้ำผลไม้ ไวน์ และแยม ที่ให้รสชาติดี สีสวย ในปี พ.ศ. 2535 ก็เริ่มเผยแพร่องค์ความรู้สู่ประชาชน ภาคเอกชน นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจำหน่าย กระทั่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ผลหม่อนกับการแปรรูป
การทำน้ำผลหม่อน
ส่วนผสม
ผลหม่อนสีแดง : สีม่วง 1 : 1 หรือ 1 : 2 1.5 กิโลกรัม
น้ำตาล 1.0 กิโลกรัม
น้ำ 4.5 ลิตร
วิธีทำ
1. นำผลหม่อนมาล้างน้ำให้สะอาดใส่หม้อเติมน้ำตั้งไฟพอเดือด
2. เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ นาน 20 – 30 นาที
3. กรองเมล็ดและกากออก
4. รินน้ำกลับใส่หม้อต้มเติมน้ำตาล
5. กรองใส่ขวดที่แห้งและฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนปิดจุกให้แน่น
6. แช่เย็นเก็บไว้ดื่ม หรือใส่น้ำแข็งดื่ม
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/500560
พันธุ์หม่อน
|
ระยะผลหม่อน
|
โพลีฟีนอล
|
แอนโทโซยานิดิน
|
โฟลิก
|
(กรัม/กิโลกรัม)
|
(มิลลิกรัม/100 กรัม)
|
(ไมโครกรัม/100กรัม)
|
||
เชียงใหม่
|
ผลห่าม
|
20.39
|
163.83
|
4.70
|
ผลสุก
|
26.61
|
247.57
|
8.11
|
|
บุรีรัมย์ 60
|
ผลห่าม
|
15.77
|
143.22
|
11.07
|
ผลสุก
|
28.08
|
308.87
|
20.90
|
ความเข้มข้นของสารสกัดผลหม่อนที่สามารถยับยั้งอนุมูลอิสระได้ 50 เปอร์เซ็นต์ (IC50) ของผลหม่อนห่ามและผลหม่อนสุกพันธุ์ต่างๆ
(ตัวเลขที่มีค่าน้อยกว่าแสดงว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่า
พันธุ์หม่อน
|
ค่า IC50 (ไมโครกรัม/มิลลิลิตร
|
|
ผลห่าม
|
ผลสุก
|
|
เชียงใหม่
|
204.03
|
166.30
|
พิกุลทอง
|
340.60
|
174.83
|
บุรีรัมย์60
|
312.73
|
152.27
|
ศรีสะเกษ33
|
339.20
|
153.93
|
ผลหม่อนกับโรคอัลไซเมอร์
ต่อมา ได้มีการใช้ผลหม่อนมาสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ
ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เนื่องจากพบว่า“ผลหม่อนมีฤทธิ์ในการลดการตายของเซลล์ประสาทและความบกพร่องของความจำ
(โรคอัลไซเมอร์ : Alzheimer’s disease)” ปัจจุบันในประเทศไทยนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุในอีกสอง ทศวรรษข้างหน้าไว้ประมาณ ร้อยละ 15 ของประชากรทั้งหมด ปัญหาที่พบมากในผู้สูงอายุคือเรื่องสมองเสื่อม โรคอัลไซเมอร์นั้นเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดในกลุ่มโรคสมองเสื่อม ในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมาได้มีการศึกษากันอย่างมากเกี่ยวกับระบาดวิทยาของโรคสมองเสื่อม ทุกการศึกษาให้ผลตรงกันอย่างหนึ่งว่า ความชุกของโรคสมองเสื่อมจะมีจำนวนสูงอย่างชัดเจนมากเมื่อมีอายุมากขึ้น (อายุมากกว่า 65 ปี)
และจำนวนความชุกจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว ในทุกๆ ช่วงอายุ 5 ปีที่เพิ่มขึ้น
ถ้าหากเราคิดว่าโรคอัลไซเมอร์
เป็นสาเหตุใหญ่ของโรคสมองเสื่อม เราอาจจะประมาณได้ว่าครึ่งหนึ่งของผู้คนเหล่านี้ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ เมื่อเกิดภาวะดังกล่าวขึ้นจะทำให้ผู้สูงอายุพึ่งพาตนเองไม่ได้ มีผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายทางด้านสาธารณสุขของประเทศ
ทั้งทางตรงและทางอ้อม ความบกพร่องเรื่องของความจำเป็นปัญหาสำคัญและมักเกิดจากการตายของเซลล์ ประสาท
ดังนั้นหากสามารถป้องกันการตายของเซลล์ประสาทในภาวะดังกล่าวได้ จะช่วยลดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโรคสมองเสื่อมได้อย่างมาก
ทั้งในด้านสุขภาพ สังคม และค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปในการจัดการกับปัญหานี้
จากการศึกษาในสัตว์ทำลอง โดยทำการป้อนสารสกัดผลหม่อนสุกอบแห้งพันธุ์เชียงใหม่ ขนาด 2, 10 และ
50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวให้หนูขาว
พบว่าหนูที่ได้รับสารสกัดผลหม่อนขนาด 10 และ 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัว มีผลเพิ่มการเรียนรู้และความจำที่เกี่ยวข้องกับทิศทาง ถ้าเป็นคนที่เรียกว่าหาทางกลับบ้านไม่ถูกก็จะไม่หลงทางไปที่อื่น และได้ทำการทดสอบสารสกัดทั้งสามขนาดที่กล่าวข้างต้นในสัตว์ทดลอง ที่เหนี่ยวนำให้เกิดความจำบกพร่องด้วย scopolamine และสาร
AF64A เพื่อเลียนแบบการทำงานบกพร่องของระบบประสาทโคลิเนอร์จิค และ ความจำบกพร่องในโรคอัลไซเมอร์
ผลการศึกษาพบว่าหนูที่ได้รับสารสกัดผลหม่อนทุกขนาด สามารถลดความบกพร่องในการเรียนรู้และความจำในสัตว์ทดลองที่เหนี่ยวนำความจำ บกพร่องด้วยสารทั้ง 2
ชนิดที่กล่าวข้างต้น พบว่ามีการเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ glutathione peroxidase (GPx) และพบการลดลงของ malondialdehyde
(MDA) ซึ่งเป็นดัชนีแสดงการทำลายของเยื่อเซลล์ส่วนไขมันจากอนุมูลอิสระ
สำหรับ “โรคหลอดเลือดสมอง หรือที่นิยมเรียกกันว่า stroke” คืออาการที่ส่วนสมองขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้เนื้อสมองส่วนนั้นหยุดทำงาน สั่งการ หรืออาจทำให้เนื้อสมองตาย ทำให้เกิดปัญหาในการ
ควบคุมการเคลื่อนไหว ความรู้สึก ความคิด พฤติกรรม
และทำให้ร่างกายส่วนที่สมองส่วนนั้นควบคุม
สูญเสียหน้าที่การทำงาน จัดเป็นเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดของโรคทางระบบประสาทวิทยาที่รับไว้ในโรง พยาบาล เป็นสาเหตุการตายและความพิการที่สำคัญในประเทศไทย โรคนี้ถ้าเป็นแล้วแม้รอดชีวิต ก็มักจะมีความพิการหลงเหลืออยู่
ไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตามโรคนี้สามารถป้องกันได้ และถ้ารีบรักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการก็อาจช่วยให้รอดชีวิต และมีความพิการน้อยลง หรือกลับไปทำงานตามปกติได้ ซึ่งโรคหลอดเลือดสมองสามารถ แบ่งได้เป็น 2 ชนิดคือ (1) ชนิดเส้นเลือดตีบ หรืออุดตัน (2)
ชนิดเส้นเลือดแตก
โดยทั่วไปจะพบผู้ป่วยที่เป็นชนิดเส้นเลือดตีบ หรืออุดตันได้บ่อยกว่าชนิดเส้นเลือดแตก
คือพบได้ถึง 80-85%
โรคหลอดเลือดสมองมักทำให้เกิดการตายของเซลล์ประสาทเนื่องจากการขาดเลือดไป เลี้ยงยังบริเวณที่เลี้ยงโดยหลอดเลือดที่เกิดพยาธิสภาพ ปัจจุบันจึงมีการพยายามศึกษาหาวิธีที่จะป้องกันภาวะดังกล่าวกันอย่างแพร่ หลาย การพยายามนำสมุนไพรมาใช้เพื่อป้องกันภาวะดังกล่าวก็จัดเป็นกลวิธีหนึ่งที่มี ความนิยมมาแต่โบราณ
คณะผู้วิจัยจึงได้นำสารสกัดแอลกอฮอล์ของผลหม่อนสุก
พันธุ์เชียงใหม่ ขนาดต่างๆได้แก่ 2, 10 และ
50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวมาป้อนหนูขาวจากนั้นนำมาเหนี่ยวนำให้เกิด ภาวะสมองขาดเลือดจำลองการเปลี่ยนแปลงที่พบในโรคหลอดเลือดสมองด้วยการทำให้ หลอดเลือด middle
cerebral artery ด้านขวาอุดตัน แล้วนำมาประเมินการเปลี่ยนแปลงของอนุมูลอิสระ พบว่าหนูกลุ่มที่ได้รับสารสกัดผลหม่อนมี การทำงานของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระที่กล่าวข้างต้นเพิ่มขึ้น หนูกลุ่มที่ได้รับสารสกัดขนาด 10
มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวจะลดปริมาตรสมองขาดเลือดใน
hippocampus ลดลง และหนูทุกกลุ่มที่ได้รับสารสกัดผลหม่อนจะมี
neurological score ดีขึ้น
จะเห็นได้ว่า
ผลหม่อนมี ศักยภาพในการป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ลดความจำบกพร่องและเพิ่มความหนาแน่นของเซลล์ประสาท และมีศักยภาพศักยภาพในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในสัตว์ทดลอง กลไกการออกฤทธิ์นั้นส่วนหนึ่งน่าจะผ่านการเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ต้าน อนุมูลอิสระ และการลดปริมาตรสมองที่ขาดเลือด
ผลหม่อน เป็นเบอร์รี่ไทย
ต้นหม่อนก็ปลูกง่าย ขึ้นได้ดีทุกสภาพพื้นที่และภูมิประเทศของไทย ปัจจุบัน กรมหม่อนไหมมีพันธุ์หม่อนผลสดพันธุ์เชียงใหม่
ที่ให้ผลผลิตผลหม่อนสูงกว่า 1,000 กิโลกรัม/ไร่/ปี
และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีพันธุ์กำแพงแสน ที่ให้ผลผลิตสูงเช่นเดียวกัน เมื่อผลหม่อนมีศักยภาพในการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร
เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพได้อย่างหลากหลาย ทำให้ผลหม่อนเป็นผลไม้ขนาดจิ๋วที่กำลังได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไป
สนใจข้อมูลเพิ่มหรือติดต่อสั่งซื้อได้ที่
ครูชอร์ว โทร 089-496-8695, Line ID :
pensionfunds (เศรษฐีใหม่)
สำนักงาน ตั้งอยู่ที่ 81/1 หมู่ 1 ต.โพธิ์พระยา อ.เมืองสุพรรณบุรี
จ.สุพรรณบุรี 72000
website : www.konggomulberry.blogspot.com
: www.facebook.com/konggo
E-mail : gshorv@gmail.com
รับสมัครตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์
จากลูกหม่อนหรือมัลเบอรี่
คลิ๊ก......
ต้นหม่อน (mulberry : Morus
spp.) เป็นไม้ยืนต้นอยู่ในวงศ์ มอราซีอี่ (Moraceae)
ที่เรามักเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไม้พุ่ม
เพราะเรามักจะเห็นแต่ต้นหม่อนต้นเตี้ยๆ ทรงต้นเป็นแบบไม้พุ่ม
ที่เห็นเป็นเช่นนั้น
เนื่องจากต้นหม่อนที่เกษตรกรปลูกไว้ใช้ใบนำไปเป็นอาหารหนอนไหม
จำเป็นต้องตัดแต่งลำต้นและกิ่งให้ต่ำอยู่เสมอ
เพื่อให้ได้กิ่งและใบที่สมบูรณ์ เก็บเกี่ยวได้ง่าย
ไม่ต้องปีนต้นเก็บใบเหมือนการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในสมัยโบราณ
การปลูกหม่อนในอดีต ก็มุ่งแต่การใช้ใบไปเลี้ยงไหม กระทั่ง นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ นักวิชาการเกษตร ศูนย์วิจัยหม่อนไหมอุดรธานี กรมวิชาการเกษตร (ปัจจุบัน นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมหม่อนไหม) ได้นำพันธุ์หม่อนที่มีผลดกรับประทานได้ จากสวนหลังบ้านคุณโกสิ่ว แซ่โก จังหวัดเชียงใหม่ มาปลูกที่ศูนย์ฯ อุดรธานี เมื่อปี พ.ศ. 2526 กอปรกับเมื่อครั้งผมได้ไปศึกษาต่อที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ได้เห็นชาวออสซี่ปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ผลประจำบ้าน แม้แต่ในมหาวิทยาลัยออสเตรเลียตะวันตก ก็มีการปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ประดับที่คณะเกษตรศาสตร์ ทำให้ผมได้ลิ้มชิมรสความอร่อยของผลหม่อนสดครั้งแรก ในซุปเปอร์มาร์เก็ตของเมืองนี้ก็มีผลหม่อนจำหน่ายเคียงคู่กับบลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ และราสพ์เบอร์รี่ นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ผลหม่อนก็ได้รับความนิยมเหมือนกับเบอร์รี่ชนิดอื่นๆ
เมื่อผมกลับมาทำงานที่ศูนย์ฯ อุดรธานีอีกครั้ง ได้เห็นไก่ในบ้านที่เลี้ยงไว้ พยายามบินขึ้นไปกินผลหม่อนสุก เกิดความสนใจว่าผลหม่อนต้องอร่อยและมีประโยชน์แน่ ผมและคณะจึงนำมาศึกษาการแปรรูปเป็น น้ำผลไม้ ไวน์ และแยม ที่ให้รสชาติดี สีสวย ในปี พ.ศ. 2535 ก็เริ่มเผยแพร่องค์ความรู้สู่ประชาชน ภาคเอกชน นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจำหน่าย กระทั่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ผลหม่อนกับการแปรรูป
การทำน้ำผลหม่อน
ส่วนผสม
ผลหม่อนสีแดง : สีม่วง 1 : 1 หรือ 1 : 2 1.5 กิโลกรัม
น้ำตาล 1.0 กิโลกรัม
น้ำ 4.5 ลิตร
วิธีทำ
1. นำผลหม่อนมาล้างน้ำให้สะอาดใส่หม้อเติมน้ำตั้งไฟพอเดือด
2. เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ นาน 20 – 30 นาที
3. กรองเมล็ดและกากออก
4. รินน้ำกลับใส่หม้อต้มเติมน้ำตาล
5. กรองใส่ขวดที่แห้งและฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนปิดจุกให้แน่น
6. แช่เย็นเก็บไว้ดื่ม หรือใส่น้ำแข็งดื่ม
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/500560
การปลูกหม่อนในอดีต ก็มุ่งแต่การใช้ใบไปเลี้ยงไหม กระทั่ง นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ นักวิชาการเกษตร ศูนย์วิจัยหม่อนไหมอุดรธานี กรมวิชาการเกษตร (ปัจจุบัน นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมหม่อนไหม) ได้นำพันธุ์หม่อนที่มีผลดกรับประทานได้ จากสวนหลังบ้านคุณโกสิ่ว แซ่โก จังหวัดเชียงใหม่ มาปลูกที่ศูนย์ฯ อุดรธานี เมื่อปี พ.ศ. 2526 กอปรกับเมื่อครั้งผมได้ไปศึกษาต่อที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ได้เห็นชาวออสซี่ปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ผลประจำบ้าน แม้แต่ในมหาวิทยาลัยออสเตรเลียตะวันตก ก็มีการปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ประดับที่คณะเกษตรศาสตร์ ทำให้ผมได้ลิ้มชิมรสความอร่อยของผลหม่อนสดครั้งแรก ในซุปเปอร์มาร์เก็ตของเมืองนี้ก็มีผลหม่อนจำหน่ายเคียงคู่กับบลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ และราสพ์เบอร์รี่ นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ผลหม่อนก็ได้รับความนิยมเหมือนกับเบอร์รี่ชนิดอื่นๆ
เมื่อผมกลับมาทำงานที่ศูนย์ฯ อุดรธานีอีกครั้ง ได้เห็นไก่ในบ้านที่เลี้ยงไว้ พยายามบินขึ้นไปกินผลหม่อนสุก เกิดความสนใจว่าผลหม่อนต้องอร่อยและมีประโยชน์แน่ ผมและคณะจึงนำมาศึกษาการแปรรูปเป็น น้ำผลไม้ ไวน์ และแยม ที่ให้รสชาติดี สีสวย ในปี พ.ศ. 2535 ก็เริ่มเผยแพร่องค์ความรู้สู่ประชาชน ภาคเอกชน นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจำหน่าย กระทั่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ผลหม่อนกับการแปรรูป
การทำน้ำผลหม่อน
ส่วนผสม
ผลหม่อนสีแดง : สีม่วง 1 : 1 หรือ 1 : 2 1.5 กิโลกรัม
น้ำตาล 1.0 กิโลกรัม
น้ำ 4.5 ลิตร
วิธีทำ
1. นำผลหม่อนมาล้างน้ำให้สะอาดใส่หม้อเติมน้ำตั้งไฟพอเดือด
2. เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ นาน 20 – 30 นาที
3. กรองเมล็ดและกากออก
4. รินน้ำกลับใส่หม้อต้มเติมน้ำตาล
5. กรองใส่ขวดที่แห้งและฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนปิดจุกให้แน่น
6. แช่เย็นเก็บไว้ดื่ม หรือใส่น้ำแข็งดื่ม
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/500560
ต้นหม่อน (mulberry : Morus
spp.) เป็นไม้ยืนต้นอยู่ในวงศ์ มอราซีอี่ (Moraceae)
ที่เรามักเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไม้พุ่ม
เพราะเรามักจะเห็นแต่ต้นหม่อนต้นเตี้ยๆ ทรงต้นเป็นแบบไม้พุ่ม
ที่เห็นเป็นเช่นนั้น
เนื่องจากต้นหม่อนที่เกษตรกรปลูกไว้ใช้ใบนำไปเป็นอาหารหนอนไหม
จำเป็นต้องตัดแต่งลำต้นและกิ่งให้ต่ำอยู่เสมอ
เพื่อให้ได้กิ่งและใบที่สมบูรณ์ เก็บเกี่ยวได้ง่าย
ไม่ต้องปีนต้นเก็บใบเหมือนการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในสมัยโบราณ
การปลูกหม่อนในอดีต ก็มุ่งแต่การใช้ใบไปเลี้ยงไหม กระทั่ง นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ นักวิชาการเกษตร ศูนย์วิจัยหม่อนไหมอุดรธานี กรมวิชาการเกษตร (ปัจจุบัน นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมหม่อนไหม) ได้นำพันธุ์หม่อนที่มีผลดกรับประทานได้ จากสวนหลังบ้านคุณโกสิ่ว แซ่โก จังหวัดเชียงใหม่ มาปลูกที่ศูนย์ฯ อุดรธานี เมื่อปี พ.ศ. 2526 กอปรกับเมื่อครั้งผมได้ไปศึกษาต่อที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ได้เห็นชาวออสซี่ปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ผลประจำบ้าน แม้แต่ในมหาวิทยาลัยออสเตรเลียตะวันตก ก็มีการปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ประดับที่คณะเกษตรศาสตร์ ทำให้ผมได้ลิ้มชิมรสความอร่อยของผลหม่อนสดครั้งแรก ในซุปเปอร์มาร์เก็ตของเมืองนี้ก็มีผลหม่อนจำหน่ายเคียงคู่กับบลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ และราสพ์เบอร์รี่ นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ผลหม่อนก็ได้รับความนิยมเหมือนกับเบอร์รี่ชนิดอื่นๆ
เมื่อผมกลับมาทำงานที่ศูนย์ฯ อุดรธานีอีกครั้ง ได้เห็นไก่ในบ้านที่เลี้ยงไว้ พยายามบินขึ้นไปกินผลหม่อนสุก เกิดความสนใจว่าผลหม่อนต้องอร่อยและมีประโยชน์แน่ ผมและคณะจึงนำมาศึกษาการแปรรูปเป็น น้ำผลไม้ ไวน์ และแยม ที่ให้รสชาติดี สีสวย ในปี พ.ศ. 2535 ก็เริ่มเผยแพร่องค์ความรู้สู่ประชาชน ภาคเอกชน นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจำหน่าย กระทั่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ผลหม่อนกับการแปรรูป
การทำน้ำผลหม่อน
ส่วนผสม
ผลหม่อนสีแดง : สีม่วง 1 : 1 หรือ 1 : 2 1.5 กิโลกรัม
น้ำตาล 1.0 กิโลกรัม
น้ำ 4.5 ลิตร
วิธีทำ
1. นำผลหม่อนมาล้างน้ำให้สะอาดใส่หม้อเติมน้ำตั้งไฟพอเดือด
2. เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ นาน 20 – 30 นาที
3. กรองเมล็ดและกากออก
4. รินน้ำกลับใส่หม้อต้มเติมน้ำตาล
5. กรองใส่ขวดที่แห้งและฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนปิดจุกให้แน่น
6. แช่เย็นเก็บไว้ดื่ม หรือใส่น้ำแข็งดื่ม
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/500560
การปลูกหม่อนในอดีต ก็มุ่งแต่การใช้ใบไปเลี้ยงไหม กระทั่ง นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ นักวิชาการเกษตร ศูนย์วิจัยหม่อนไหมอุดรธานี กรมวิชาการเกษตร (ปัจจุบัน นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมหม่อนไหม) ได้นำพันธุ์หม่อนที่มีผลดกรับประทานได้ จากสวนหลังบ้านคุณโกสิ่ว แซ่โก จังหวัดเชียงใหม่ มาปลูกที่ศูนย์ฯ อุดรธานี เมื่อปี พ.ศ. 2526 กอปรกับเมื่อครั้งผมได้ไปศึกษาต่อที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ได้เห็นชาวออสซี่ปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ผลประจำบ้าน แม้แต่ในมหาวิทยาลัยออสเตรเลียตะวันตก ก็มีการปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ประดับที่คณะเกษตรศาสตร์ ทำให้ผมได้ลิ้มชิมรสความอร่อยของผลหม่อนสดครั้งแรก ในซุปเปอร์มาร์เก็ตของเมืองนี้ก็มีผลหม่อนจำหน่ายเคียงคู่กับบลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ และราสพ์เบอร์รี่ นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ผลหม่อนก็ได้รับความนิยมเหมือนกับเบอร์รี่ชนิดอื่นๆ
เมื่อผมกลับมาทำงานที่ศูนย์ฯ อุดรธานีอีกครั้ง ได้เห็นไก่ในบ้านที่เลี้ยงไว้ พยายามบินขึ้นไปกินผลหม่อนสุก เกิดความสนใจว่าผลหม่อนต้องอร่อยและมีประโยชน์แน่ ผมและคณะจึงนำมาศึกษาการแปรรูปเป็น น้ำผลไม้ ไวน์ และแยม ที่ให้รสชาติดี สีสวย ในปี พ.ศ. 2535 ก็เริ่มเผยแพร่องค์ความรู้สู่ประชาชน ภาคเอกชน นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจำหน่าย กระทั่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ผลหม่อนกับการแปรรูป
การทำน้ำผลหม่อน
ส่วนผสม
ผลหม่อนสีแดง : สีม่วง 1 : 1 หรือ 1 : 2 1.5 กิโลกรัม
น้ำตาล 1.0 กิโลกรัม
น้ำ 4.5 ลิตร
วิธีทำ
1. นำผลหม่อนมาล้างน้ำให้สะอาดใส่หม้อเติมน้ำตั้งไฟพอเดือด
2. เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ นาน 20 – 30 นาที
3. กรองเมล็ดและกากออก
4. รินน้ำกลับใส่หม้อต้มเติมน้ำตาล
5. กรองใส่ขวดที่แห้งและฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนปิดจุกให้แน่น
6. แช่เย็นเก็บไว้ดื่ม หรือใส่น้ำแข็งดื่ม
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/500560
How to make money from tips and tricks in sports betting
ตอบลบThe goal is to place bets on 샌즈카지노 individual teams, not individual teams. In the betting strategy, you place a single bet on each and every งานออนไลน์ team to 1xbet