KonggoMulberry

วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558

วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2558

“น้ำหม่อน” เครื่องดื่มสมุนไพร


"ผลหม่อน" หรือ "ลูกหม่อน" ผลไม้ขนาดจิ๋ว แต่คุณภาพแจ่มแจ๋ว มีแววว่าเริ่มโด่งดังมากยิ่งขึ้นในอนาคต นางวีณา พงศ์พัฒนานนท์ อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า กรมหม่อนไหมมีการค้นคว้าวิจัย ประโยชน์และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผลหม่อนมาอย่างต่อเนื่องยาวนานมากกว่า 20 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2533 ทำให้ผลิตภัณฑ์จากผลหม่อน เริ่มเป็นที่รู้จักของนักบริโภคอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ อีกทั้งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กระแสผลไม้กลุ่มเบอร์รี่เป็นที่นิยมของคนไทยทุกเพศ ทุกวัย จึงทำให้ผลหม่อนซึ่งเป็นเบอร์รี่ชนิดหนึ่งนามว่า "มัลเบอร์รี่" จึงมีที่ยืนในตลาดเคียงบ่าเคียงไหล่กับเบอร์รี่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น บลูเบอร์รี่ ราสพ์เบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ เป็นต้น จนในปีนี้ น้ำหม่อนหรือน้ำมัลเบอร์รี่ (mulberry juice)ของไทย ทำให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และชาวไทยในจังหวัดสงขลา หันมาบริโภคเครื่องดื่มจากลูกหม่อนกันอย่างมาก ด้วยติดใจในรสชาติ และทราบสรรพคุณและการได้มาซึ่งวัตถุดิบที่ไร้สารเคมีอันตรายในการผลิต ขอให้ท่านผู้อ่านลองติดตามดูว่าเกษตรกรที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เขารู้จักลูกหม่อนและต้นหม่อนได้อย่างไร



วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558

น้ำลูกหม่อนสมุนไพรเพื่อบำรุงสุขภาพ ตราคองโก้

ผลหม่อนรสดี ต้องลอง บำรุงสมองและหลอดเลือด

ต้นหม่อน (mulberry : Morus spp.) เป็นไม้ยืนต้นอยู่ในวงศ์ มอราซีอี่ (Moraceae) ที่เรามักเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไม้พุ่ม เพราะเรามักจะเห็นแต่ต้นหม่อนต้นเตี้ยๆ ทรงต้นเป็นแบบไม้พุ่ม ที่เห็นเป็นเช่นนั้น เนื่องจากต้นหม่อนที่เกษตรกรปลูกไว้ใช้ใบนำไปเป็นอาหารหนอนไหม จำเป็นต้องตัดแต่งลำต้นและกิ่งให้ต่ำอยู่เสมอ เพื่อให้ได้กิ่งและใบที่สมบูรณ์ เก็บเกี่ยวได้ง่าย ไม่ต้องปีนต้นเก็บใบเหมือนการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในสมัยโบราณ
          การปลูกหม่อนในอดีต ก็มุ่งแต่การใช้ใบไปเลี้ยงไหม กระทั่ง นายวสันต์  นุ้ยภิรมย์ นักวิชาการเกษตร ศูนย์วิจัยหม่อนไหมอุดรธานี กรมวิชาการเกษตร (ปัจจุบัน นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมหม่อนไหม) ได้นำพันธุ์หม่อนที่มีผลดกรับประทานได้ จากสวนหลังบ้านคุณโกสิ่ว แซ่โก จังหวัดเชียงใหม่ มาปลูกที่ศูนย์ฯ อุดรธานี เมื่อปี พ.ศ. 2526 กอปรกับเมื่อครั้งผมได้ไปศึกษาต่อที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ได้เห็นชาวออสซี่ปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ผลประจำบ้าน แม้แต่ในมหาวิทยาลัยออสเตรเลียตะวันตก ก็มีการปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ประดับที่คณะเกษตรศาสตร์ ทำให้ผมได้ลิ้มชิมรสความอร่อยของผลหม่อนสดครั้งแรก ในซุปเปอร์มาร์เก็ตของเมืองนี้ก็มีผลหม่อนจำหน่ายเคียงคู่กับบลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ และราสพ์เบอร์รี่ นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ผลหม่อนก็ได้รับความนิยมเหมือนกับเบอร์รี่ชนิดอื่นๆ
        เมื่อผมกลับมาทำงานที่ศูนย์ฯ อุดรธานีอีกครั้ง ได้เห็นไก่ในบ้านที่เลี้ยงไว้ พยายามบินขึ้นไปกินผลหม่อนสุก เกิดความสนใจว่าผลหม่อนต้องอร่อยและมีประโยชน์แน่ ผมและคณะจึงนำมาศึกษาการแปรรูปเป็น น้ำผลไม้ ไวน์ และแยม ที่ให้รสชาติดี สีสวย ในปี พ.ศ. 2535 ก็เริ่มเผยแพร่องค์ความรู้สู่ประชาชน ภาคเอกชน นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจำหน่าย กระทั่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
 
ผลหม่อนกับการแปรรูป
    การทำน้ำผลหม่อน
ส่วนผสม
ผลหม่อนสีแดง : สีม่วง 1 : 1 หรือ 1 : 2        1.5      กิโลกรัม
น้ำตาล                                               1.0      กิโลกรัม
น้ำ                                                    4.5      ลิตร
วิธีทำ
1.  นำผลหม่อนมาล้างน้ำให้สะอาดใส่หม้อเติมน้ำตั้งไฟพอเดือด
2.  เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ นาน 20 – 30 นาที
3.  กรองเมล็ดและกากออก
4.  รินน้ำกลับใส่หม้อต้มเติมน้ำตาล
5.  กรองใส่ขวดที่แห้งและฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนปิดจุกให้แน่น
6.  แช่เย็นเก็บไว้ดื่ม หรือใส่น้ำแข็งดื่ม
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/500560
 ผลหม่อนกับสารสำคัญในการออกฤทธิ์


      เมื่อนักวิจัยจากกรมหม่อนไหม ได้ศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการปลูกหม่อนพันธ์ุที่ให้ผลดกเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จ จึงส่งเสริมเกษตรกรและประชาชน ที่สนใจได้ปลูกหม่อนเป็นผลไม้ข้างบ้าน และปลูกเพื่อจำหน่ายผลสดหรือแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในเชิงพาณิชย์ โดยตั้งชื่อพันธ์ุนี้ว่า "หม่อนผลสดเชียงใหม่" เนื่องจากมีการนำหม่อนพันธ์นี้มาจากจังหวัดเชียงใหม่ หม่อนพันธ์ุนี้เดิมเราเรียกว่า "หม่อนกินลูก" แต่หลายคนในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่กล้ารับประทานเพราะเกรงว่าหม่อนจะไปกินลูกตัวเอง อาจแท้งลูกได้ จึงเปลี่ยนมาเป็น "หม่อนรับประทานผล" แต่เมื่อทำการขอรับรองพันธ์ุเป็นพันธ์แนะนำ จากกรมวิชาการเกษตร จึงได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า "หม่อนผลสดพันธ์ุเชียงใหม่" ก่อนนำไปสู่การวิจัย หาปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นสารกลุ่ม โพลีฟีนอล กลุ่มแอนโทไซยานิน และกรดโฟลิค


พันธุ์หม่อน
ระยะผลหม่อน
โพลีฟีนอล
แอนโทโซยานิดิน
โฟลิก
(กรัม/กิโลกรัม)
(มิลลิกรัม/100 กรัม)
(ไมโครกรัม/100กรัม)
เชียงใหม่
ผลห่าม
20.39
163.83
4.70

ผลสุก
26.61
247.57
8.11
บุรีรัมย์  60
ผลห่าม
15.77
143.22
11.07

ผลสุก
28.08
308.87
20.90

ความเข้มข้นของสารสกัดผลหม่อนที่สามารถยับยั้งอนุมูลอิสระได้ 50 เปอร์เซ็นต์ (IC50) ของผลหม่อนห่ามและผลหม่อนสุกพันธุ์ต่างๆ (ตัวเลขที่มีค่าน้อยกว่าแสดงว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่า

พันธุ์หม่อน
ค่า IC50 (ไมโครกรัม/มิลลิลิตร
ผลห่าม
ผลสุก
เชียงใหม่
204.03
166.30
พิกุลทอง
340.60
174.83
บุรีรัมย์60
312.73
152.27
ศรีสะเกษ33
339.20
153.93
  



ผลหม่อนกับโรคอัลไซเมอร์

ต่อมา ได้มีการใช้ผลหม่อนมาสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เนื่องจากพบว่าผลหม่อนมีฤทธิ์ในการลดการตายของเซลล์ประสาทและความบกพร่องของความจำ (โรคอัลไซเมอร์ : Alzheimer’s disease)ปัจจุบันในประเทศไทยนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุในอีกสอง ทศวรรษข้างหน้าไว้ประมาณ ร้อยละ 15 ของประชากรทั้งหมด ปัญหาที่พบมากในผู้สูงอายุคือเรื่องสมองเสื่อม โรคอัลไซเมอร์นั้นเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดในกลุ่มโรคสมองเสื่อม ในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมาได้มีการศึกษากันอย่างมากเกี่ยวกับระบาดวิทยาของโรคสมองเสื่อม ทุกการศึกษาให้ผลตรงกันอย่างหนึ่งว่า ความชุกของโรคสมองเสื่อมจะมีจำนวนสูงอย่างชัดเจนมากเมื่อมีอายุมากขึ้น (อายุมากกว่า 65 ปี) และจำนวนความชุกจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว ในทุกๆ ช่วงอายุ 5 ปีที่เพิ่มขึ้น ถ้าหากเราคิดว่าโรคอัลไซเมอร์ เป็นสาเหตุใหญ่ของโรคสมองเสื่อม เราอาจจะประมาณได้ว่าครึ่งหนึ่งของผู้คนเหล่านี้ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ เมื่อเกิดภาวะดังกล่าวขึ้นจะทำให้ผู้สูงอายุพึ่งพาตนเองไม่ได้ มีผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายทางด้านสาธารณสุขของประเทศ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ความบกพร่องเรื่องของความจำเป็นปัญหาสำคัญและมักเกิดจากการตายของเซลล์ ประสาท ดังนั้นหากสามารถป้องกันการตายของเซลล์ประสาทในภาวะดังกล่าวได้ จะช่วยลดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโรคสมองเสื่อมได้อย่างมาก ทั้งในด้านสุขภาพ สังคม และค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปในการจัดการกับปัญหานี้
           จากการศึกษาในสัตว์ทำลอง โดยทำการป้อนสารสกัดผลหม่อนสุกอบแห้งพันธุ์เชียงใหม่ ขนาด 2, 10 และ 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวให้หนูขาว พบว่าหนูที่ได้รับสารสกัดผลหม่อนขนาด 10 และ 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัว มีผลเพิ่มการเรียนรู้และความจำที่เกี่ยวข้องกับทิศทาง ถ้าเป็นคนที่เรียกว่าหาทางกลับบ้านไม่ถูกก็จะไม่หลงทางไปที่อื่น และได้ทำการทดสอบสารสกัดทั้งสามขนาดที่กล่าวข้างต้นในสัตว์ทดลอง ที่เหนี่ยวนำให้เกิดความจำบกพร่องด้วย scopolamine และสาร AF64A เพื่อเลียนแบบการทำงานบกพร่องของระบบประสาทโคลิเนอร์จิค และ ความจำบกพร่องในโรคอัลไซเมอร์ ผลการศึกษาพบว่าหนูที่ได้รับสารสกัดผลหม่อนทุกขนาด สามารถลดความบกพร่องในการเรียนรู้และความจำในสัตว์ทดลองที่เหนี่ยวนำความจำ บกพร่องด้วยสารทั้ง 2 ชนิดที่กล่าวข้างต้น พบว่ามีการเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ glutathione peroxidase (GPx) และพบการลดลงของ malondialdehyde (MDA) ซึ่งเป็นดัชนีแสดงการทำลายของเยื่อเซลล์ส่วนไขมันจากอนุมูลอิสระ
          สำหรับ โรคหลอดเลือดสมอง หรือที่นิยมเรียกกันว่า strokeคืออาการที่ส่วนสมองขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้เนื้อสมองส่วนนั้นหยุดทำงาน สั่งการ หรืออาจทำให้เนื้อสมองตาย ทำให้เกิดปัญหาในการ ควบคุมการเคลื่อนไหว ความรู้สึก ความคิด พฤติกรรม และทำให้ร่างกายส่วนที่สมองส่วนนั้นควบคุม สูญเสียหน้าที่การทำงาน จัดเป็นเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดของโรคทางระบบประสาทวิทยาที่รับไว้ในโรง พยาบาล เป็นสาเหตุการตายและความพิการที่สำคัญในประเทศไทย โรคนี้ถ้าเป็นแล้วแม้รอดชีวิต ก็มักจะมีความพิการหลงเหลืออยู่ ไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตามโรคนี้สามารถป้องกันได้ และถ้ารีบรักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการก็อาจช่วยให้รอดชีวิต และมีความพิการน้อยลง หรือกลับไปทำงานตามปกติได้ ซึ่งโรคหลอดเลือดสมองสามารถ แบ่งได้เป็น 2 ชนิดคือ (1) ชนิดเส้นเลือดตีบ หรืออุดตัน (2) ชนิดเส้นเลือดแตก โดยทั่วไปจะพบผู้ป่วยที่เป็นชนิดเส้นเลือดตีบ หรืออุดตันได้บ่อยกว่าชนิดเส้นเลือดแตก คือพบได้ถึง 80-85%
           โรคหลอดเลือดสมองมักทำให้เกิดการตายของเซลล์ประสาทเนื่องจากการขาดเลือดไป เลี้ยงยังบริเวณที่เลี้ยงโดยหลอดเลือดที่เกิดพยาธิสภาพ ปัจจุบันจึงมีการพยายามศึกษาหาวิธีที่จะป้องกันภาวะดังกล่าวกันอย่างแพร่ หลาย การพยายามนำสมุนไพรมาใช้เพื่อป้องกันภาวะดังกล่าวก็จัดเป็นกลวิธีหนึ่งที่มี ความนิยมมาแต่โบราณ
          คณะผู้วิจัยจึงได้นำสารสกัดแอลกอฮอล์ของผลหม่อนสุก พันธุ์เชียงใหม่ ขนาดต่างๆได้แก่ 2, 10  และ 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวมาป้อนหนูขาวจากนั้นนำมาเหนี่ยวนำให้เกิด ภาวะสมองขาดเลือดจำลองการเปลี่ยนแปลงที่พบในโรคหลอดเลือดสมองด้วยการทำให้ หลอดเลือด middle cerebral artery ด้านขวาอุดตัน แล้วนำมาประเมินการเปลี่ยนแปลงของอนุมูลอิสระ พบว่าหนูกลุ่มที่ได้รับสารสกัดผลหม่อนมี การทำงานของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระที่กล่าวข้างต้นเพิ่มขึ้น หนูกลุ่มที่ได้รับสารสกัดขนาด 10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวจะลดปริมาตรสมองขาดเลือดใน hippocampus ลดลง และหนูทุกกลุ่มที่ได้รับสารสกัดผลหม่อนจะมี neurological score ดีขึ้น 
         จะเห็นได้ว่า ผลหม่อนมี ศักยภาพในการป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ลดความจำบกพร่องและเพิ่มความหนาแน่นของเซลล์ประสาท และมีศักยภาพศักยภาพในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในสัตว์ทดลอง กลไกการออกฤทธิ์นั้นส่วนหนึ่งน่าจะผ่านการเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ต้าน อนุมูลอิสระ และการลดปริมาตรสมองที่ขาดเลือด
             ผลหม่อน เป็นเบอร์รี่ไทย ต้นหม่อนก็ปลูกง่าย ขึ้นได้ดีทุกสภาพพื้นที่และภูมิประเทศของไทย ปัจจุบัน กรมหม่อนไหมมีพันธุ์หม่อนผลสดพันธุ์เชียงใหม่ ที่ให้ผลผลิตผลหม่อนสูงกว่า 1,000 กิโลกรัม/ไร่/ปี และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีพันธุ์กำแพงแสน ที่ให้ผลผลิตสูงเช่นเดียวกัน เมื่อผลหม่อนมีศักยภาพในการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพได้อย่างหลากหลาย ทำให้ผลหม่อนเป็นผลไม้ขนาดจิ๋วที่กำลังได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไป




สนใจข้อมูลเพิ่มหรือติดต่อสั่งซื้อได้ที่ ครูชอร์ว โทร 089-496-8695,  Line ID : pensionfunds (เศรษฐีใหม่) 
  สำนักงาน ตั้งอยู่ที่ 81/1 หมู่ 1 ต.โพธิ์พระยา อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี 72000
website : www.konggomulberry.blogspot.com
              : www.facebook.com/konggo
E-mail : gshorv@gmail.com

รับสมัครตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ จากลูกหม่อนหรือมัลเบอรี่
คลิ๊ก......

ต้นหม่อน (mulberry : Morus spp.) เป็นไม้ยืนต้นอยู่ในวงศ์ มอราซีอี่ (Moraceae) ที่เรามักเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไม้พุ่ม เพราะเรามักจะเห็นแต่ต้นหม่อนต้นเตี้ยๆ ทรงต้นเป็นแบบไม้พุ่ม ที่เห็นเป็นเช่นนั้น เนื่องจากต้นหม่อนที่เกษตรกรปลูกไว้ใช้ใบนำไปเป็นอาหารหนอนไหม จำเป็นต้องตัดแต่งลำต้นและกิ่งให้ต่ำอยู่เสมอ เพื่อให้ได้กิ่งและใบที่สมบูรณ์ เก็บเกี่ยวได้ง่าย ไม่ต้องปีนต้นเก็บใบเหมือนการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในสมัยโบราณ
          การปลูกหม่อนในอดีต ก็มุ่งแต่การใช้ใบไปเลี้ยงไหม กระทั่ง นายวสันต์  นุ้ยภิรมย์ นักวิชาการเกษตร ศูนย์วิจัยหม่อนไหมอุดรธานี กรมวิชาการเกษตร (ปัจจุบัน นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมหม่อนไหม) ได้นำพันธุ์หม่อนที่มีผลดกรับประทานได้ จากสวนหลังบ้านคุณโกสิ่ว แซ่โก จังหวัดเชียงใหม่ มาปลูกที่ศูนย์ฯ อุดรธานี เมื่อปี พ.ศ. 2526 กอปรกับเมื่อครั้งผมได้ไปศึกษาต่อที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ได้เห็นชาวออสซี่ปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ผลประจำบ้าน แม้แต่ในมหาวิทยาลัยออสเตรเลียตะวันตก ก็มีการปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ประดับที่คณะเกษตรศาสตร์ ทำให้ผมได้ลิ้มชิมรสความอร่อยของผลหม่อนสดครั้งแรก ในซุปเปอร์มาร์เก็ตของเมืองนี้ก็มีผลหม่อนจำหน่ายเคียงคู่กับบลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ และราสพ์เบอร์รี่ นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ผลหม่อนก็ได้รับความนิยมเหมือนกับเบอร์รี่ชนิดอื่นๆ
        เมื่อผมกลับมาทำงานที่ศูนย์ฯ อุดรธานีอีกครั้ง ได้เห็นไก่ในบ้านที่เลี้ยงไว้ พยายามบินขึ้นไปกินผลหม่อนสุก เกิดความสนใจว่าผลหม่อนต้องอร่อยและมีประโยชน์แน่ ผมและคณะจึงนำมาศึกษาการแปรรูปเป็น น้ำผลไม้ ไวน์ และแยม ที่ให้รสชาติดี สีสวย ในปี พ.ศ. 2535 ก็เริ่มเผยแพร่องค์ความรู้สู่ประชาชน ภาคเอกชน นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจำหน่าย กระทั่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
 
ผลหม่อนกับการแปรรูป
    การทำน้ำผลหม่อน
ส่วนผสม
ผลหม่อนสีแดง : สีม่วง 1 : 1 หรือ 1 : 2        1.5      กิโลกรัม
น้ำตาล                                               1.0      กิโลกรัม
น้ำ                                                    4.5      ลิตร
วิธีทำ
1.  นำผลหม่อนมาล้างน้ำให้สะอาดใส่หม้อเติมน้ำตั้งไฟพอเดือด
2.  เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ นาน 20 – 30 นาที
3.  กรองเมล็ดและกากออก
4.  รินน้ำกลับใส่หม้อต้มเติมน้ำตาล
5.  กรองใส่ขวดที่แห้งและฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนปิดจุกให้แน่น
6.  แช่เย็นเก็บไว้ดื่ม หรือใส่น้ำแข็งดื่ม
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/500560
ต้นหม่อน (mulberry : Morus spp.) เป็นไม้ยืนต้นอยู่ในวงศ์ มอราซีอี่ (Moraceae) ที่เรามักเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไม้พุ่ม เพราะเรามักจะเห็นแต่ต้นหม่อนต้นเตี้ยๆ ทรงต้นเป็นแบบไม้พุ่ม ที่เห็นเป็นเช่นนั้น เนื่องจากต้นหม่อนที่เกษตรกรปลูกไว้ใช้ใบนำไปเป็นอาหารหนอนไหม จำเป็นต้องตัดแต่งลำต้นและกิ่งให้ต่ำอยู่เสมอ เพื่อให้ได้กิ่งและใบที่สมบูรณ์ เก็บเกี่ยวได้ง่าย ไม่ต้องปีนต้นเก็บใบเหมือนการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในสมัยโบราณ
          การปลูกหม่อนในอดีต ก็มุ่งแต่การใช้ใบไปเลี้ยงไหม กระทั่ง นายวสันต์  นุ้ยภิรมย์ นักวิชาการเกษตร ศูนย์วิจัยหม่อนไหมอุดรธานี กรมวิชาการเกษตร (ปัจจุบัน นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมหม่อนไหม) ได้นำพันธุ์หม่อนที่มีผลดกรับประทานได้ จากสวนหลังบ้านคุณโกสิ่ว แซ่โก จังหวัดเชียงใหม่ มาปลูกที่ศูนย์ฯ อุดรธานี เมื่อปี พ.ศ. 2526 กอปรกับเมื่อครั้งผมได้ไปศึกษาต่อที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ได้เห็นชาวออสซี่ปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ผลประจำบ้าน แม้แต่ในมหาวิทยาลัยออสเตรเลียตะวันตก ก็มีการปลูกหม่อนผลสดไว้เป็นไม้ประดับที่คณะเกษตรศาสตร์ ทำให้ผมได้ลิ้มชิมรสความอร่อยของผลหม่อนสดครั้งแรก ในซุปเปอร์มาร์เก็ตของเมืองนี้ก็มีผลหม่อนจำหน่ายเคียงคู่กับบลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ และราสพ์เบอร์รี่ นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ผลหม่อนก็ได้รับความนิยมเหมือนกับเบอร์รี่ชนิดอื่นๆ
        เมื่อผมกลับมาทำงานที่ศูนย์ฯ อุดรธานีอีกครั้ง ได้เห็นไก่ในบ้านที่เลี้ยงไว้ พยายามบินขึ้นไปกินผลหม่อนสุก เกิดความสนใจว่าผลหม่อนต้องอร่อยและมีประโยชน์แน่ ผมและคณะจึงนำมาศึกษาการแปรรูปเป็น น้ำผลไม้ ไวน์ และแยม ที่ให้รสชาติดี สีสวย ในปี พ.ศ. 2535 ก็เริ่มเผยแพร่องค์ความรู้สู่ประชาชน ภาคเอกชน นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจำหน่าย กระทั่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
 
ผลหม่อนกับการแปรรูป
    การทำน้ำผลหม่อน
ส่วนผสม
ผลหม่อนสีแดง : สีม่วง 1 : 1 หรือ 1 : 2        1.5      กิโลกรัม
น้ำตาล                                               1.0      กิโลกรัม
น้ำ                                                    4.5      ลิตร
วิธีทำ
1.  นำผลหม่อนมาล้างน้ำให้สะอาดใส่หม้อเติมน้ำตั้งไฟพอเดือด
2.  เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ นาน 20 – 30 นาที
3.  กรองเมล็ดและกากออก
4.  รินน้ำกลับใส่หม้อต้มเติมน้ำตาล
5.  กรองใส่ขวดที่แห้งและฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนปิดจุกให้แน่น
6.  แช่เย็นเก็บไว้ดื่ม หรือใส่น้ำแข็งดื่ม
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/500560